เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อเรื่อง "สิว" ไม่ได้เป็นเรื่องขี้ประติ๋ว หรือเรื่องสิว ๆ อย่างที่ใครเขาว่า คนที่เป็นสิวกับตัวรู้ดีว่าการจัดการกับปัญหานี้มันน่าเหนื่อยใจมากแค่ไหน แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออก และเราก็หวังว่า 10 กฏบัญญัติสู่ผิวสวยสำหรับคนเป็นสิว ที่นำมาฝากกันวันนี้ จะพาสาว ๆ ที่มีปัญหาสิวมาสู่ทางออกที่ถูกต้องได้นะคะ
1. รักษาใบหน้าให้สะอาด
การเมคอัพและการใช้คอนซีลเลอร์ช่วยพรางสิวให้คุณได้ก็จริง แต่มันไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการสิวให้ทุเลาลงเลย แถมยังอาจเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้อีกต่างหาก เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจด และล้างหน้าให้สะอาดทุกเช้า-เย็น เป็นประจำทุกวัน และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเข้มข้น 2% ขึ้นไป ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
2. ไม่บีบสิว
นี่เป็นเรื่องที่หักห้ามใจยากเสียจริง ๆ สำหรับสาวมือซน แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าการบีบสิวนั้นเป็นการกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบ เป็นแผล ทิ้งรอยด่างดำเอาไว้ และที่สำคัญคือสามารถกระจายแบคทีเรียออกไปรอบ ๆ ทำให้เกิดสิวมากขึ้นอีก รู้อย่างนี้แล้วก็เก็บมือเอาไว้ให้ห่างใบหน้า หรือหาของเล่นที่บีบได้มาใส่มือไว้แทนดีกว่านะ
3. แต่ถ้าเผลอบีบไปแล้วล่ะ...
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมกลับไปแก้ไขไม่ได้ หากคุณอดใจไม่ไหวเผลอบีบสิวไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลาม และคอยรักษาแผล ซึ่งทำได้โดยการใช้ครีมเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) เข้มข้น 2.5% แต้มที่หัวสิว เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อไม่ให้เกิดการอักเสบลุกลาม และแต้มกรดซาลิไซลิกตามเพื่อให้สิวแห้งเร็วขึ้น
4. ใจเย็น
การรักษาสิวย่อมต้องใช้เวลา และผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษาสิวได้ดี อันได้แก่ เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์, ไกลโคลิก และ กรดซาลิไซลิก ทุกตัวนั้นย่อมต้องอาศัยเวลาในการออกฤทธิ์เพื่อรักษาสิวอย่างเห็นผล นั่นคือคุณจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนได้ในช่วงเวลา 6 สัปดาห์ แต่หากนานกว่านั้น อาจหมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่เกิดผลกับผิวของคุณ การไปพบแพทย์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในกรณีนี้
5. ใช้เรตินอยด์
ใครว่าเรตินอยด์ใช้กับผิวที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยได้เท่านั้น มันสามารถใช้กับผิวที่มีปัญหาสิวได้ด้วย เรตินอยด์ช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ริ้วรอยดูจางลง และสิวลดลงได้ในระยะยาว ลองใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ บีบใช้ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว ทาให้ทั่วทั้งใบหน้าในยามก่อนนอน จะช่วยให้ผิวที่เป็นสิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็วยิ่งขึ้น
6. รักษาแต่เนิ่น ๆ
การรักษาสิวแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้สิวที่กำลังจะขึ้นยุบลงไปได้ภายใน 2-3 วัน เป็นการป้องกันไม่ให้ผิวเกิดจุดด่างดำจากรอยสิวได้ที่ต้นเหตุ และหากผิวมีความเสี่ยงที่จะเป็นสิวง่ายอยู่แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่เป็นสิวง่ายทั่วทั้งใบหน้าก็จะเป็นการดี
7. ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวมากเกินไป
การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่เป็นสิวง่ายเพื่อป้องกันการเกิดสิวนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หากโหมใช้มันมากเกินไป เป็นต้นว่าใช้หลาย ๆ ชนิดพร้อม ๆ กัน หรือทายารักษาสิวบ่อยเกินไป ก็จะทำให้ผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือในบางรายก็เกิดอาการผิวไหม้ที่เรียกว่า เคมิคัล เบิร์น จากการใช้ยาแต้มสิวด้วย กลายเป็นว่าผลิตภัณฑ์สำหรับสิวกลับยิ่งทำให้ผิวหน้ามีปัญหามากกว่าเดิม หากใช้ไม่ถูกวิธี
8. พักผ่อน
การพักผ่อนให้ทั้งร่างกายและจิตใจสงบ คลายความเครียดลง ก็ช่วยให้ผิวหน้าและปัญหาสิวของคุณดีขึ้นได้ เพราะความเครียดนั้นกระตุ้นให้ผิวหน้าของคุณขับน้ำมันออกมามากกว่าปกติ หากความมันส่วนเกินเหล่านี้เข้าผสมกับสิ่งสกปรกและอุดตันในรูขุมขน เกิดเป็นสิวขึ้นได้นั่นเอง
9. ปกป้องผิวจากแสงแดด
ผลิตภัณฑ์รักษาสิวอาจทำให้ผิวของคุณไวต่อแดดมากขึ้น เพราะฉะนั้นทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 เป็นอย่างน้อย เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด
10. รักษาจุดด่างดำ
แม้ผิวจะเรียบสม่ำเสมอเพราะสิวยุบหายไปแล้ว แต่มันก็มักทิ้งรอยด่างดำเอาไว้เสมอ หมั่นทายาลดรอยสิวเป็นประจำ จุดด่างดำเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ จางลง และหายไปได้ในที่สุด
ผู้ที่มีปัญหาสิวลองปฏิบัติตามบัญญัติ 10 ข้อสำหรับผิวเป็นสิวเหล่านี้ดู และหวังว่ามันจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดีขึ้นได้นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น