วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไอเดียดีน่าลองใช้ ให้สาว ๆ ใส่รองเท้าส้นเตารีดได้สวย


รองเท้าส้นเตารีด



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอท
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dahong.co.kr , bubbleandchic.co.kr , namuddalgi.com ,shinn.co.kr และ pinknbabi.com

          เดี๋ยวนี้นอกจากจะเห็นสาว ๆ ใส่รองเท้าส้นสูงกันแล้ว ก็ยังเห็นใส่รองเท้าส้นเตารีดกันมากขึ้นด้วย รองเท้าส้นเตารีด หรืออาจเรียกกันว่า รองเท้าส้นตัน (wedges) มีหลายแบบให้เลือกใส่ด้วยกัน ทั้งแบบที่ปิดหุ้มทั้งเท้าเหมือนคัทชู แบบรัดข้อ แบบเปลือยเท้า แบบรองเท้าสาน แบบเปิดนิ้วเท้า เรียกว่าออกแบบมาให้ใส่กันได้แทบทุกโอกาสจริง ๆ ค่ะ และทำให้แมทช์กับเสื้อผ้าได้หลายสไตล์ด้วย เราเองก็ชื่นชอบรองเท้าแบบนี้เหมือนกัน วันนี้เลยขอนำเอาไอเดียการแต่งตัวด้วยรองเท้าส้นเตารีดมาฝากกันค่ะ
        1. ใส่กับชุดเดรส

          รองเท้าส้นเตารีดเข้ากับชุดเดรสได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเดรสสั้นหรือเดรสยาว แต่จะใส่ออกมาให้ได้ลุคไหนก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของเดรสและรองเท้าที่คุณเลือกค่ะ อย่าลืมเลือกให้เข้ากันนะคะ เพราะมันจะทำให้คุณได้ลุคแบบสวยหวาน คลาสสิค วินเทจ หรือทันสมัย ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเลยล่ะ

รองเท้าส้นเตารีด

รองเท้าส้นเตารีด

        2.ใส่กับกระโปรง

          รองเท้าส้นเตารีดใส่กับเดรสได้ก็ต้องใส่กับกระโปรงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกระโปรงสั้นหรือว่ากระโปรงแม็กซี่ แต่มีข้อแม้อยู่หนึ่งประการค่ะ หากอยากใส่ให้สวยน่ารัก ไม่ดูหนักและตัน อย่าจับคู่กับกระโปรงเข้ารูปเป็นอันขาด เพราะมันจะทำให้ช่วงล่างของคุณดูแบ่งเป็นท่อน ๆ ทึบ ๆ ไม่น่ามองเลยค่ะ ใส่กับกระโปรงบาน มีจีบ หรือกระโปรงพลิ้ว ๆ จะน่ารักกว่ามากทีเดียว ^^

รองเท้าส้นเตารีด

รองเท้าส้นเตารีด


        3. ใส่กับกางเกงยีนส์

          กางเกงยีนส์ดูจะใส่กับรองเท้าอะไรก็เข้ากันได้ดีไปหมด เช่นเดียวกับการใส่คู่กับรองเท้าส้นเตารีดด้วยค่ะ แต่ยีนส์ที่จะทำให้คุณใส่รองเท้าส้นเตารีดแล้วดูหุ่นดีขาเรียว ต้องเป็นสกินนี่ยีนส์เท่านั้นนะคะ ส่วนยีนส์ทรงบูทคัทหรือทรงขาบาน ถ้าจะใส่กับรองเท้าประเภทนี้ ต้องให้ความยาวของขาลงมาปิดตัวรองเท้าด้วย จึงจะทำให้ขาของคุณดูเรียวและมีรูปร่างที่ดูดี

รองเท้าส้นเตารีด

รองเท้าส้นเตารีด

        4. รองเท้าส้นเตารีดกับหน้าร้อน
          รองเท้าส้นเตารีดแบบสาน (wedge espadrilles) หรือแบบเปลือยเท้า (wedge sandals) เหมาะกับหน้าร้อนเป็นที่สุด ใส่แล้วไม้ร้อนอับเท้า สามารถใส่ไปเดินห้างหรืองานเลี้ยงได้สบาย ๆ ไม่ดูชิลเกินไปอย่างรองเท้าแตะด้วย นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีของรองเท้าใส่สวยสำหรับหน้าร้อนเลยค่ะ

รองเท้าส้นเตารีด

รองเท้าส้นเตารีด

รองเท้าส้นเตารีด

        5. ใส่ไปทำงาน

          หากจะใส่รองเท้าส้นเตารีดไปทำงานล่ะก็ ขอให้เลือกแบบที่เป็นทรงสุภาพสไตล์คัทชู (classic pump wedges) ซึ่งจะทำให้ชุดทำงานของคุณดูเรียบร้อย มีมาด และเป็นทางการ

รองเท้าส้นเตารีด

รองเท้าส้นเตารีด

        6. ทำอย่างไรให้ใส่แล้วดูสวยเข้ากันทั้งชุด

          รองเท้าส้นเตารีดบางทรงก็ให้ความรู้สึกที่ทึบและตันเกินไป แต่คุณสามารถทำให้มันดูสวยพอดี ๆ อย่างสมดุลได้ ด้วยการเลือกใส่คู่กับเสื้อผ้าที่ดูพลิ้ว ฟู และเบา แต่ถ้าเป็นรองเท้าส้นเตารีดที่ดูเรียบ ๆ ก็สามารถแมทช์กับเสื้อผ้าที่สดใสมีลูกเล่นได้อย่างลงตัวเลยเชียวนะ ;)

รองเท้าส้นเตารีด

รองเท้าส้นเตารีด

          รู้แนวการใส่รองเท้าส้นเตารีดให้สวยแล้ว ก็ลองหยิบรองเท้าและชุดเก่งของคุณมาลองเข้าคู่ดูสิคะ คุณจะได้ลุคสวย ๆ ใหม่ ๆ ไว้สลับกันใส่ได้ทุกวันเลยล่ะค่ะ

4 วิธีปลุกหัวใจรักก่อนตอบรับชีวิตคู่อีกครั้ง


ความรัก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม  

          เมื่อเราตัดสินใจแต่งงานกับใครแล้ว แสดงว่าเรามั่นใจจริง ๆ ว่าเขาเป็นคนที่ใช่ที่สุดแล้ว พร้อมกับหวังว่าเราจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันจนแก่ และคงไม่มีใครอยากให้ตัวเองกลายเป็นแม่หม้ายหรอกนะ แต่เมื่อถึงเวลาที่เราทั้งคู่ไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ ก็คงต้องทำใจยอมรับ และเมื่อคุณโสดได้สักพัก ฟ้าอาจจะลิขิตให้คุณได้พบกับใครอีกคนที่ใช่กว่า จนถึงขั้นตกลงปลงใจแต่งงานเลยก็ได้ ซึ่งถ้าคุณไม่อยากทำผิดพลาดซ้ำสองล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าคุณต้องทำอย่างไรบ้าง

 1. ลดความคาดหวัง

          ถึงแม้ความคาดหวังจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่กำลังมีความรัก แต่ถ้าหากคุณขาดการควบคุม หรือขาดความยับยั้งชั่งใจล่ะก็ ความคาดหวังของคุณอาจจะเป็นสิ่งบีบคั้นหัวใจ ทำให้คนรักใหม่ของคุณรู้สึกอึดอัดจนต้องเดินจากไปก็ได้ ฉะนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจแต่งงานกับคนใหม่ คุณทั้งสองคนควรจะพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกันซะตั้งแต่ต้น ว่ามีสิ่งใดที่คุณและเขาอยากให้ทำ และมีสิ่งใดที่ไม่อยากให้ทำบ้าง ก่อนที่คุณจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

 2. เข้าใจความแตกต่าง

          นิสัยและความคิดของผู้หญิงและผู้ชายมักจะสวนทางกันเสมอ เหมือนที่เขาบอกกันมาว่าผู้หญิงเลี้ยวซ้าย แต่ผู้ชายเลี้ยวขวานั่นแหละ ที่ทำให้คนมีคู่ต้องทะเลาะกันเสมอ เช่น คุณชอบให้เขาบอกรัก แต่เขาคิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำว่ารัก หรือผู้หญิงมักจะเก็บเรื่องเก่า ๆ มาทะเลาะทุกครั้ง ในขณะที่ผู้ชายจะคิดแค่ปัญหาตรงหน้าเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นชีวิตแต่งงานครั้งใหม่ คุณก็ลองดูว่าเรื่องใดที่คุณทั้งคู่มีทัศนคติไม่ตรงกันบ้าง หรือคิดในมุมกลับดูบ้าง เพราะทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรถูกอะไรผิด เพียงแค่คุณทั้งสองคนมองคนละมุมก็เท่านั้นเอง

 3. ข้อตกลงของคุณทั้งคู่

          สิ่งที่เป็นอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งของชีวิตคู่ คือ เรื่องอุปนิสัยส่วนตัว เพราะต่างคนต่างที่มา ดังนั้น คุณอาจจะได้เจอคู่ที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันสุดขั้วก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เมื่อเขาทำอะไรให้คุณรู้สึกอึดอัดใจ หรือรู้สึกไม่พอใจ ก็บอกไปเลยตรง ๆ ดีกว่าเก็บไว้นาน ๆ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะไม่มีใครเข้ากันได้ทุกอย่างตั้งแต่ต้นหรอก ฉะนั้น คุณทั้งคู่ควรพูดคุยกันแล้วค่อย ๆ ปรับเข้าหากันดีกว่านะ

 4. ปล่อยมือจากรักครั้งเก่า

          หลาย ๆ คนอาจจะเจ็บจากรักเก่า จนทำให้คุณเกิดความรู้สึกกลัว ๆ กล้า ๆ ที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตคู่อีกครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรที่คุณต้องกลัวหรือกังวลเลย ถ้าหากคุณทำวันนี้ให้ดีที่สุด เก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้ก็พอ แล้วจำเรื่องที่คุณเคยทำพลาดเป็นบทเรียนสำหรับรักครั้งใหม่ของคุณ เพราะฉะนั้น หากคุณมีเวลาก็ลองคิดดูว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณกับคนรักเก่าต้องผิดใจกันบ้าง แล้วคุณก็แก้ไขปัญหาซะ เพียงแค่นี้คุณก็ไม่ต้องเสียใจซ้ำสองแล้วล่ะ

          ไม่ว่าจะเรื่องนิสัยส่วนตัว ทัศนคติ ความคิดต่าง ๆ อาจจะเป็นสาเหตุทำให้คุณและคนรักเก่าต้องแยกทางก็ได้ ดังนั้น ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้ดีเท่าตัวคุณอีกแล้ว เพราะอยู่ที่ตัวคุณแล้วว่าคุณจะยอมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงข้อบกพร่องของตัวเองหรือเปล่า เพราะถ้าคุณไม่ยอมปรับเปลี่ยนอะไรเลย คุณก็อาจจะเจอกับปัญหาเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่สิ้นสุด คุณพร้อมจะยอมรับความเจ็บนี้หรือเปล่าล่ะ...

การจัดงานวิวาห์ในสไตล์วินเทจ


ธีมงานแต่งงานวินเทจ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ruffledblog.com และ greenweddingshoes.com

          ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย สำหรับ "ธีมงานแต่งงานวินเทจ" อาจเพราะให้ความรู้สึกสบายตา สบายใจ และแลดูเรียบง่าย อบอุ่นเป็นกันเอง จึงทำให้มีบ่าวสาวหลายคู่นิยมจัดงานธีมงานแต่งงานสไตล์มากขึ้น ดังนั้น วันนี้กระปุกเวดดิ้งจึงนำเอาเทคนิคการจัดงานวิวาห์สไตล์วินเทจมาฝากกันค่ะ 

          เริ่มที่การเลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับสไตล์วินเทจ คงหนีไม่พ้นชุดเจ้าสาวตัวยาวเข้ารูป ปล่อยชายกรุยกราย หรือชุดกระโปรงสั้นก็น่ารักไปอีกแบบ ในส่วนของการประดับตกแต่งโต๊ะอาหารสไตล์นี้ อย่าทำให้โต๊ะอาหารและการนั่งรับประทานอาหารดูเป็นทางการและจริงจังจนเกินไป ให้ความรู้สึกสบายด้วยโทนสีสบายตา รวมถึงควรมีกลิ่นอายความย้อนยุคนิด ๆ และเพิ่มความน่ามองให้กับโต๊ะอาหาร ด้วยการนำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเก๋ ชิ้นเล็ก ๆ มาประดับ หรือจะเลือกเป็นดอกไม้ประดับบนแจกันใบใหญ่ตั้งโดดเด่นก็สวยงามไม่แพ้กัน
          สำหรับการจัดดอกไม้หรือประดับดอกไม้ในพิธีแต่งงานสไตล์วินเทจ ต้องให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง ดูดีมีสไตล์ และดอกไม้ที่นิยมมากที่สุด คือ โทนสีม่วงอ่อน สีขาว และสีชมพูอ่อน เพราะให้อารมณ์แบบวินเทจสุด ๆ และยังเป็นการง่ายในการคุมโทนสีในการใช้ประดับตกแต่ง ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงดอกไม้ประเภทสีสว่างหรือสีสด เพราะมันไม่เข้ากับธีมวินเทจด้วยประการทั้งปวง

          อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เข้าธีมแต่งงานแบบวินเทจ "เค้กแต่งงาน" จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ธีมแต่งงานสไตล์นี้สมบูรณ์ ซึ่งเค้กแต่งงานสไตล์วินเทจก็ไม่แตกต่างจากเค้กแต่งงานทั่วไป เพียงแต่สามารถเล่นกับรูปแบบการตกแต่งและการดีไซน์ได้มากกว่า จึงทำให้หน้าเค้กแต่งงานสามารถแต่งได้แปลกแหวกแนว ตามความคิดสร้างสรรค์ของคู่บ่าวสาว

          และนี่คือคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาบอกกัน ลองนำเอาไปประยุกต์ใช้กับงานแต่งงานของคุณดูนะคะ 

เมนูหวาน ๆ ด้วยน้ำตาลธรรมชาติ


เมนูหวาน ๆ ด้วยน้ำตาลธรรมชาติ

เมนูหวาน ๆ ด้วยน้ำตาลธรรมชาติ

อาหารเด็ก

หวานๆ ด้วยน้ำตาลธรรมชาติ
 (รักลูก)
เรื่อง : กอเกื้อ / ภาพ : ภิญโญ ถวิลวัฒน์

          ลูกวัยเตาะแตะกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรปรุงรสให้หวาน หรือใส่น้ำตาลให้ลูกมากเกินไป เพราะอาหารหลายอย่างหวานจากน้ำตาลธรรมชาติอยู่แล้วค่ะ

อาหารเด็ก

ฟักทองผัดไข่

 ส่วนผสม

         ฟักทองหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย

         ไข่ไก่ 1 ฟอง

         น้ำสะอาด 1 ถ้วย

         กระเทียมสับ 1 ช้อนชา

         เกลือเล็กน้อย

         น้ำซุป 2 ถ้วย

         น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

 วิธีทำ

          1.ตั้งกระทะใส่น้ำมันรอจนร้อน ใส่ฟักทองลงผัดเติมน้ำเล็กน้อย แล้วปิดฝาทิ้งไว้รอให้ฟักทองนิ่ม ตักขึ้นพักไว้

          2.ใช้กระทะใบเดิมใส่น้ำมันพืชรอจนร้อน แล้วใส่กระเทียมสับผัดให้เหลืองหอม จากนั้นตอกไข่ใส่กระทะ รอให้ไข่ขาวสุกเล็กน้อย ค่อย ๆ ยีไข่แดงให้แตก ปรุงรสด้วยเกลือป่น

          3.เทฟักทองที่ผัดไว้ลงไปคลุกให้เข้ากัน ตักให้ลูกทานได้เลยค่ะ

          Tip : ควรหั่นฟักทองให้ได้ขนาดพอดี ไม่หนาหรือบางเกินไป เพราะจะทำให้ฟักทองเละหรือไม่สุกได้

อาหารเด็ก

ไก่อบน้ำผึ้งเลมอน

 ส่วนผสม

         เนื้ออกไก่ 1 ชิ้น

         น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา

         ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

         กระเทียมสับ 2 กลีบ

         น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ

 วิธีทำ

          1.นำไก่ไปคลุกกับซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ น้ำเลมอนและน้ำผึ้ง หมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง

          2.จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียสนาน 5 นาที

          3.เมื่อครบ 5 นาทีแล้ว นำไก่ออกมาทาน้ำผึ้ง จากนั้นอบต่ออีก 5 นาทีจนสุก

          4.นำไก่มาหั่นใส่จานพร้อมอร่อยได้เลยค่ะ


          Tip : จะให้ไก่อบรสชาติดีควรหมักทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง หรือข้ามวันได้ยิ่งดี เพราะน้ำหมักจะซึมเข้าเนื้ออย่างทั่วถึงค่ะ



            



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ปีที่ 30 ฉบับที่ 354 กรกฎาคม 2555