เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก hopaaa.blogspot.com
เคยเห็นการทำนายเรื่องโชคชะตาราศี โดยดูจากวันที่เกิดกันมาเยอะแล้ว ซึ่งนั้นเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ แต่คราวนี้ลองมาดูอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์ขึ้นมาหน่อย นั่นคือการอ่านความสัมพันธ์ของคู่รักจากท่วงท่าการนอน นี่เป็นผลสำรวจที่ travellodge เว็บไซต์ซึ่งให้บริการจองห้องพักและโรงแรมออนไลน์ของอังกฤษ ร่วมกับ โครีน สวีท นักจิตวิทยาความสัมพันธ์ ได้ทำการแปลความท่านอนของคู่รัก 2,000 คู่ ซึ่งเป็นแขกผู้เข้าพักโรงแรมตามต่าง ๆ ในเมืองไบรตัน แดนผู้ดี
ตามการรายงานจากเว็บไซต์เดลิเมล สาเหตุที่สามารถอ่านความสัมพันธ์ของคู่รักจากท่วงท่าการนอนได้ ก็เนื่องจาก ในระหว่างการนอน (แบบที่หลับสนิทไปแล้วจริง ๆ) คนเราไม่สามารถควบคุมบังคับภาษากายที่ร่างกายแสดงออกมาได้ ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายแสดงออกซึ่งตัวตน และความต้องการของเจ้าของร่างกายได้ซื่อสัตย์ที่สุด และถ่ายทอดออกมาทางท่าทางการนอนแบบต่าง ๆ นั่นเอง ยามที่เรารู้สึกหงุดหงิดโมโห เราจะไม่อยากให้ใครมาแตะต้องตัว ไม่อยากกอดรัดกับคนรักเมื่อถึงเวลานอน ยิ่งเป็นคู่ที่เพิ่งทะเลาะบาดหมางกันก่อนนอน ยิ่งรู้สึกรังเกียจที่จะโดนเนื้อตัวกันด้วยซ้ำ
ผลการทำแบบสอบถามพบว่า คู่รักจำนวนเกือบครึ่ง คือ 46% นอนหันหลังให้กัน พลิกหน้ากันไปคนละทาง ไม่ว่าจะนอนห่างคนละมุมเตียงหรือว่าหลังยังชนกันอยู่ก็ตาม หากคนรักทั้งคู่ไม่ได้บาดหมางผิดใจกันก่อนจะเข้านอน ท่านอนซึ่งเรียกว่า "ลิเบอร์ตี้" นี้ ก็ยังไม่เข้าขั้นเวลาร้าย แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า แม้จะยังรู้สึกเชื่อต่อกันอยู่ แต่ละคนกลับใส่ใจกับเรื่องการนอนหลับให้สนิทและสบาย มากกว่าที่จะสนใจคู่รักของตัวเอง ซึ่งดูแนวโน้มแล้วพบว่า ยิ่งนับวันคู่รักที่ใส่ใจเรื่องการให้ตัวเองนอนหลับได้สนิทดี จนถึงขนาดแยกเตียงนอน หรือสั่งซื้อเตียงคิงไซส์ แทนที่จะเป็นเตียงดับเบิลขนาดมาตรฐาน เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างระหว่างกันบนเตียงในอังกฤษนั้น มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนท่านอนที่เรียกว่าท่า "โรแมนติก" แบบที่เห็นได้ในหนังบ่อย ๆ คือฝ่ายหญิงนอนหลับซบอกฝ่ายชาย โดยมือของผู้ชายก็คอยประคองกอดโอบไหล่ไว้ด้วย ดูแล้วเป็นท่ายอดนิยมหลังฉากเล่นบทรัก แต่ในความเป็นจริงมีคู่รักที่นอนท่านี้เพียง 1% เท่านั้นเอง ... สงสัยจะเป็นเพราะดูดีอย่างเดียว แต่นอนจริง ๆ แล้วคงเมื่อยน่าดู
สำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน มักจะนอนกกกอดกันด้วยท่า "เลิฟ น็อต" (Love Knot) คือหันหน้าเข้าหากัน สองขาเกี่ยวเกาะ แขนก็โอบกอดกันไว้หลวม ๆ ท่านี้เป็นสัญลักษณ์ของความชิดใกล้ ความรัก และความเสน่หา แม้ว่าจะนอนท่านี้ได้สัก 10 นาที แล้วคลายออกไปนอนท่าอื่นต่อก็ตาม ซึ่งมีคู่รักที่หลับในท่านี้อยู่ 8% แต่ก็ยังมีอีกกลุ่ม คือ 4% ที่นอนกอดเกี่ยวกันด้วยท่า เลิฟ น็อต ได้ตลอดทั้งคืน ซึ่งหมายความว่าเป็นคู่รักที่ไม่อยากจะอยู่ห่างกันแม้แต่นาทีเดียว
ส่วนการอ่านความสัมพันธ์ของคู่รักจากท่านอนทั้งหมด มีดังนี้
1. ลิเบอร์ตี้ (Liberty) นอนหันหลังให้กัน (28%)
แต่ละคนยังรู้สึกเชื่อมต่อกัน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นอิสระจากกันมากพอที่จะนอนห่างกันได้ มีความคุ้นเคยต่อกันและกันเป็นอย่างดี และยอมรับในพฤติกรรมการนอนของคนรักได้
2. เชอริช (Cherish) นอนหันหน้าหันหน้าออกคนละด้าน หลังชนกัน (18%)
เป็นท่าที่ที่แต่ละฝ่ายต่างรู้สึกสบาย ๆ ต่อกัน ทั้งยังรู้สึกถึงความใกล้ชิด แต่ก็ผ่อนคลาย เป็นท่ายอดนิยมกับคู่รักที่เพิ่งคบหากันใหม่ ๆ
3. สปูนแบบผู้ชาย (Spoon) นอนหันหน้าไปทางเดียวกัน ผู้ชายโอบกอดผู้หญิงไว้จากด้านหลัง (13%)
นี่เป็นท่านอนที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ และความมั่นคงในความสัมพันธ์
4. สปูนแบบผู้หญิง (Spoon) นอนหันหน้าไปทางเดียวกัน ผู้หญิงโอบกอดผู้ชายไว้จากด้านหลัง (5%)
เหมือนกับท่าสปูนแบบผู้ชายเปี๊ยบ แต่ท่านี้กลับเป็นฝ่ายหญิงที่เล่นบทผู้นำ เธอรู้สึกอยากจะปกป้องฝ่ายชาย
5. พินโลว ทอล์ค (Pinlow Talk) นอนซบหมอนหันหน้าเข้าหากัน (7%)
แสดงถึงความต้องการความใกล้ชิด การสื่อสารของคนรักทั้งสอง ต้องการมีบทสนทนาบนเตียง
6. เลิฟ น็อต (Love Knot) แบบนอนตระคองกอดเกี่ยว ราว 10 นาทีจึงคลายออก (8%)
ถ่ายทอดความรัก ความชิดใกล้ และความเสน่หา
7. เลิฟ น็อต (Love Knot) แบบนอนท่าเดียวทั้งคืน (4%)
เป็นคู่รักที่ใกล้ชิดมาก และไม่อยากจะอยู่ห่างกันเลย
8. เดอะ โรแมนติก (The Romantic) ผู้หญิงนอนแนบข้าง ใบหน้าซบอก ฝ่ายชายโอบไหล่ (1%)
ท่านอนยอดฮิตที่พบเห็นได้บ่อยในหนัง แสดงออกถึงรักที่สดใหม่ หรือรักที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
9. ซูเปอร์วูแมน (Superwoman) ฝ่ายหญิงนอนกางแขนกางขา ฝ่ายชายนอนชิดขอบเตียง (1%)
เธอคือผู้ครอบครองพื้นที่บนเตียง ฝ่ายชายด้อยความสำคัญ และจำยอมให้เป็นเช่นนั้น
10. ซูเปอร์แมน (Superman) ฝ่ายชายนอนกางแขนกางขา ฝ่ายหญิงนอนชิดขอบเตียง (1%)
เขาคือผู้ครอบครองพื้นที่บนเตียง ฝ่ายหญิงด้อยความสำคัญ และจำยอมให้เป็นเช่นนั้น
ทั้งนี้ นอกจากจะพบว่าคู่รักยุคใหม่ส่วนใหญ่เริ่มหันมานิยมการนอนแยกเตียงกันมากขึ้น ที่น่าเศร้าใจและเสียดายอีกอย่างก็คือ คู่รักตั้ง 80% ไม่ได้จูบกันหรือบอกรักอีกฝ่ายก่อนเข้านอนอีกต่อไป แถมอีกผลหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ผู้หญิงถึง 2 ใน 3 ของทั้งหมด บอกว่าพวกเธอสามารถบอกได้ว่าคุณผู้ชายอาจกำลังมีพฤติกรรมนอกใจ โดยดูจากท่วงท่าการนอน หรืออาการที่ผิดปกติไปเมื่ออยู่บนเตียง .. แหม สัญชาติญาณคนเป็นภรรยานี่มันแรงจริง ๆ เลยนะเนี่ย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น